อะไรทำให้ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ทำลายภาพลักษณ์ของตัวเอง?

“แย่จัง”, “ไม่เข้าใจทำไมคนอย่างใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ถึงตกลงไปเล่นหนังหยาบคายแบบนี้?” การเห็นคอมเมนต์ประชดจากผู้ชมที่มีต่อใบเฟิร์นในแต่ละบทความก็ไม่ใช่เรื่องยาก เนื้อหาชวนให้เข้าใจผิดดึงดูดผู้ชมด้วยฉากร้อนแรงไม่มีใครเห็นใจหรือเข้าใจ “พลัง” ที่ทำให้สาวงามไทยยอมทำทุกอย่างเพื่อยอมรับบทบาทที่น่ารังเกียจเช่นนี้ การที่นักแสดงต้องแลกกับ  Angel of Sin นั้นไม่คุ้มค่าเลย ในทางกลับกัน ทางเลือกนี้ก็กลายเป็น “รอยเปื้อน” ตลอดการเดินทางตามหางานศิลปะของเธอ

นับตั้งแต่วันแรกที่ประกาศการกลับมาแสดงบนจออีกครั้งกับ  Angel of Sin  ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ก็สามารถดึงดูดสายตาและความคาดหวังของสาธารณชนได้สำเร็จ ต้องขอบคุณความสำเร็จก่อนหน้านี้ของ  The Flying Leaf, Friendzone,..ในตอนแรก  Angel of Sin ได้รับการแนะนำในฐานะ ภาพยนตร์เกี่ยวกับทองดี เด็กสาวที่อยู่ก้นบึ้งของสังคม ทน  ทุกข์ลำบาก และโชคร้ายมากมาย ขณะต้องฝ่าสามี 9 คนเพื่อแสวงหาความสุข แน่นอนว่าธีม – แม่ลาย  The Angel of Sin นั้นไม่ได้แย่ แต่มัน “แย่” ในแง่ที่มันใช้ประโยชน์จากรายละเอียดและจิตวิทยาของตัวละคร

หลายคนคงเข้าใจยากเมื่อใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ยอมเล่นหนังพิษ

คิดว่าเป็นผลงานชิ้นเอก กลับกลายเป็น “ผลิตภัณฑ์ขยะ”

ในการออกอากาศตอนแรก ทอง รับบทโดย ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ยังคงได้รับความเห็นอกเห็นใจจากผู้ชมเมื่อถูกแม่บุญธรรมทำร้ายและเหินห่างจนทำให้เธอเกิดความคิดหุนหันพลันแล่นและกบฏ แน่นอนว่าการใช้ชีวิตแบบครอบครัวก็เหมือนตกนรก ใครๆ ก็อยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชะตากรรม แต่เมื่อมองดูทางของทองก็ไม่มีใครเห็นใจหรือรักได้ ทองใช้คำพูดดีๆ ความสวยงาม แม้กระทั่งร่างกายของเธอไปนอนกับผู้ชายคนแล้วคนเล่าตราบใดที่คนๆ นั้นทำประโยชน์ให้เธอบ้าง

ทองตกไปอยู่ในมือผู้ชายอย่างต่อเนื่อง

จนถึงตอนนี้ชีวิตของทองดีต้องผ่านสามีมาแล้ว 5 คน และแทบไม่มีใครจบลงอย่างมีความสุขเลย คนแรกคือ พีท (จิรายุ ละอองมณี) คนที่พรากชีวิตลูกสาวของทองไป หลังจากผลักแม่บุญธรรมลงบันได ทองดีก็เดินตามพีทและย้ายไปกรุงเทพฯ เพื่อใช้เวลาแห่งความสุขอันแสนสั้น เนื่องจากทั้งคู่รักเงินแต่ขี้เกียจทำงาน ความขัดแย้งจึงเกิดขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักหนุ่มสาวเริ่มแตกแยกมากขึ้น แต่ทันทีที่พีทจากไป ทองก็ตกไปอยู่ในอ้อมแขนของชายอีกคน วีระชัย (สิทธะ สภานุชชาติ) ทันที โดยปราศจากความรู้สึกผิดหรือความทรมานใดๆ ต่อชายชรา วีแตกต่างจากพีทโดยสิ้นเชิงเพราะเขาหล่อ รวย และมั่นคงทางเศรษฐกิจ แต่ทองก็ไม่เปลี่ยนไปเลยเมื่อเทียบกับความรักที่ยังไม่เสร็จก่อนหน้านี้ เมื่อเธอตระหนักถึงนิสัยที่ทารุณกรรมของสามีคนที่สอง และความหายใจไม่ออกในการอยู่ร่วมกับแม่สามี ทองดีจึงวางแผนที่จะหา “การสนับสนุน” ใหม่ บอสบุญ (สมชาย เข็มกลัด) คือตัวเลือกถัดไปของทองเมื่อเธอกลายเป็น “โสเภณี” ที่บาร์แห่งหนึ่ง เพื่อให้ได้รับความโปรดปราน ทองตกลงที่จะแสดงความบันเทิงที่ไม่ดีซึ่งทำให้ใครก็ตามที่มองเขายอมรับไม่ได้ หากสามีทั้งสองคนก่อนหน้านี้การยั่วยวนของทองและการไปนอนกับผู้ชายทำให้ผู้ชมโกรธแล้วในทางกลับกันของบุญก็มีเหตุผลมากขึ้นที่จะยืนยันว่าพวกเขากำลังดู “ผลิตภัณฑ์ขยะ” ที่ไม่มีอะไรมากไปกว่า ” สินค้าขยะ” ไม่น้อย

ภายใต้ “ป้าย” ของตัวละคร ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เองก็แสดงฉากน่ารังเกียจโดยสวมชุดที่เปิดเผยไม่กลัวที่จะโค้งงอและอวดส่วนโค้งของเธอเพื่อกระตุ้นความสนใจและรับเสียงปรบมือจากฝูงชนในงานปาร์ตี้สนุกสนานกันอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง เพราะพระเอกมีออร่า นางเอก มาลี ถึงเปิดเสื้อโชว์หน้าอกก็สู้ทองไม่ได้ หลังจากนั้นทองก็ถูก “พา” เข้าไปในห้องส่วนตัวเพื่อเป็น “สิทธิพิเศษ” แต่เพียงเพื่อเอาเชือกคล้องคอให้สุนัขเห่าเท่านั้น ภาพสุดฮาที่ไม่มีใครคิดว่า ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก จะกล้าทำ?

แต่นั่นไม่ใช่จุดสิ้นสุด เมื่อพูดถึงสามีคนที่สี่ สารวัตรมิตร (ยุค ส่งไพศาล) ประชาชนยังคงทนกับภาพอันน่าสยดสยองมากยิ่งขึ้น มิตรเป็นน้องชายของบุญและหมกมุ่นอยู่เสมอเพราะน้องชายของเขามีความสามารถมากกว่าเขา ซึ่งทำให้มิตต้องขัง “เงา” ทั้งหมดของบุญไว้ใน “ฮาเร็ม” เพื่อสนองความปรารถนาที่จะชนะ ทองตกหลุมรักมิตรอย่างง่ายดายเพราะหน้าตาที่เป็นผู้ใหญ่ สงบ และซับซ้อน แต่เมื่อเข้าไปในดินแดนของมิตร ทอง (และผู้ฟัง) ก็ต้องพบกับพฤติกรรมป่วย มิทดำดิ่งลงไปในปาร์ตี้ริมสระน้ำ เมื่อผู้หญิงในมือของเขากลายเป็นเครื่องมือที่จะสนองความปรารถนาของเขา แม้กระทั่งตอนที่คิดหาวิธีกำจัดคนขี้โกง แต่หนังก็ยังคงติดอยู่กับการใช้เซ็กส์เพื่อผ่านพ้นไป

บางที มนตรา (เจส เจสพิพัฒน์) – สามีคนที่ 5 ของทอง อาจเป็นกรณีที่ดีที่สุด เมื่อทอง ไม่ต้องใช้กลอุบายหรือใช้ร่างกายแต่ยังมีหัวใจ แต่นี่ยังไม่ใช่จุดแวะพักสุดท้ายของตัวละครตัวนี้เมื่อมนตราเสียชีวิตกะทันหันด้วยอุบัติเหตุ

เมื่อมองย้อนกลับไปถึงการเดินทางของตัวละคร ผู้ชมดูผิดหวังกับวิธีสร้างจิตวิทยาของตัวละครและข้อความที่ภาพยนตร์พยายามจะสื่อ มีสาวคนไหนที่อยากเปลี่ยนชีวิตต้อง “ไปนอน” กับผู้ชายและใช้ร่างกายเพื่อให้ได้สิ่งที่เธอต้องการไหม? ในขณะที่สังคมมีและยังคงมีภาพยนตร์ประณามการกระทำดูหมิ่นผู้หญิงและส่งเสริมแนวคิดเรื่อง “สตรีนิยม”  Sinful Angel  ก็ปรากฏตัวพร้อมรายละเอียดที่น่าอับอาย แม้กระทั่งความอับอาย มองผู้หญิงเป็นความบันเทิง และกลายเป็นเครื่องมือในการตอบสนองความปรารถนาของผู้ชาย .

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน  The Angel of Sin ไม่ได้ “ล้าหลัง” เพราะไม่ว่าในช่วงใดในประวัติศาสตร์ ผู้หญิงจะต้องและควรได้รับความเคารพและปฏิบัติอย่างยุติธรรม ในขณะเดียวกัน ทิศทางของโปรเจ็กต์นี้แสดงให้เห็นถึง “ความด้อย” ของความคิดของผู้สร้างภาพยนตร์ เมื่อในยุคปัจจุบัน คุณค่าของผู้หญิงได้รับการส่งเสริมด้วยความสามารถ อาชีพการงาน และ  ความ สำเร็จ สวยและเต็มใจที่จะ “ถอด” แล้วผู้ชายจะตามคุณไป หรือ “ถ้าไม่มีฉันก็คงมีคนอื่น”

ทูตสวรรค์ผู้บาปต้องการสื่อข้อความอะไร?

อย่า “เปลี่ยนแนวคิด” ในการทำหนังเพื่อประณาม วิพากษ์วิจารณ์ และเตือนคนหนุ่มสาวที่มีวิถีชีวิตที่เบี่ยงเบน นี่อาจเป็นเรื่องจริงในตอนแรกที่  นางฟ้าแห่งสิน  งดฉากร้อนแรงและใช้ประโยชน์จากการเดินทางของนางเอกทองดีก่อนเหตุการณ์ในชีวิตแทน แต่ดูสิ่งที่เกิดขึ้นในโปรเจ็กต์ดูสิทองยอมจำนนต่อเงินอย่างง่ายดายและปล่อยให้ผู้ชาย สัมผัสพระองค์แลกศักดิ์ศรีเพื่อชีวิตที่รุ่งเรือง บางทีในสามีคนที่ 5 ถ้ามนตราไม่ใช่คนดีและใจดีแล้วเมื่อไรคนดูจะได้เห็นนางเอกที่มีความคิดปฏิรูปและเป็นคนดี?

“บาป” ไม่ใช่ของเทวดา แต่เป็นของใบเฟิร์น พิมพ์ชนก?

หากถาม  ว่าAngel of Sin  เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จหรือไม่ คำตอบคือใช่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ติดอันดับ 1 เรตติ้งสูงสุดของโทรทัศน์ไทยในปัจจุบัน กลายเป็น “ซีรีส์โทรทัศน์อันดับ 1 หลังข่าว” โดยมีเรตติ้งผู้ชมทางสถานี ONE31 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นที่รู้กันว่า  Angel of Sin  เปิดตัวด้วยเรตติ้ง 1.8% เท่านั้น และตอนนี้เพิ่มเป็น 3.2% แล้ว ในเวียดนาม รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์กลายเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า  ทูตสวรรค์แห่งบาป  จะได้รับความชื่นชมอย่างสูงจากผู้ชม การปรากฏตัวของฉากหยาบคาย รุก และอ้อมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพลักษณ์ของ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เสียคะแนนมากขึ้น

ยิ่งกว่าใครๆ นักแสดงหญิงจะต้องเป็นคนที่เข้าใจว่าชื่อเสียงของศิลปินนั้นมีค่าเพียงใด ในเมื่อ ใบเฟิร์น ไม่ใช่นักแสดงที่ได้รับการสนับสนุนจากทุนนิยมอย่างเข้มแข็ง เธอยังค่อยๆ หนีจากวันอันมืดมนมาสู่อาชีพระดับแนวหน้าอย่างทุกวันนี้

เมื่ออายุ 17 ปี ใบเฟิร์นเซ็นสัญญาทำงานภายใต้บริษัทไทย CH7 (ช่อง 7) เพียงหนึ่งปีให้หลัง นักแสดงหญิงก็ได้รับรางวัลใหญ่ด้วยบทบาทนำหญิงคนแรกของเธอในภาพยนตร์เรื่อง First Love ซึ่งร่วมแสดงกับนักแสดงมาริโอ เมาเรอร์ ในวันต่อมา นักแสดงหญิงตกอยู่ในสถานการณ์ “ตาย” เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องต่อไปของเธอไม่ดึงดูดความสนใจ

บทบาทของใบเฟิร์นใน First Love

ในช่วงปี 2556-2560 ใบเฟิร์นตกอยู่ในภาวะวิกฤติอย่างต่อเนื่องจาก “เรื่องอื้อฉาว” ที่น่าตกใจ เช่น การใช้สารกระตุ้น และเผยคลิป “มีเซ็กส์” กับผู้ชายในรถ เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้อาชีพของดาราหญิงที่เกิดในปี 1992 แทบจะตกต่ำลง ดาราสาวเผชิญคลื่นการคว่ำบาตรและคำวิจารณ์อันดุเดือดจากผู้ชม ไม่มีใครเชื่อได้ว่าใบเฟิร์นยังมี “ประตู” ให้กลับคืนสู่วงการบันเทิงไทย

แต่โอกาสที่ไม่คาดคิดก็มาถึงเธอเมื่อ  The Flame of Passion ประสบ ความสำเร็จอย่างล้นหลาม ส่งผลให้ชื่อของใบเฟิร์นกลับมาอีกครั้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้มีแนวคิดคล้ายกับ  Angel of Sin เมื่อบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ใช้กลอุบายเพื่อค่อยๆ บรรลุชื่อเสียงและอำนาจ

ไฟแห่งความหลงใหลช่วยให้ใบเฟิร์นฟื้นชื่อเสียง

เสียงสะท้อนของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังช่วยให้นักแสดงได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมายเช่น Star’s Light Awards, 6th Howe Awards, 8th Mthai Top-Talk Awards, 9th Nataraj Awards…

ใบเฟิร์นคว้าชัยชนะมาอย่างต่อเนื่องทั้งภาพยนตร์และโทรทัศน์ด้วยผลงานชิ้นเอก เช่น  Dream Arena, Destroying the Devil, Handsome Guys, Friendzone หรือ  Bad Genius 

ในปี 2019 ชื่อของใบเฟิร์นแพร่กระจายไปทั่วเอเชียด้วยภาพยนตร์เรื่องดังเรื่อง  The Flying Leaf แม้ว่าเนื้อหาจะเป็นที่ถกเถียงกัน แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความน่าดึงดูดใจอันแข็งแกร่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ ช่วยให้ใบเฟิร์นก้าวไปสู่ยุคทองที่สุดในอาชีพของเขา

ใบไม้บินทำให้ชื่อของใบเฟิร์นโด่งดังไปทั่วทั้งเอเชีย

จำวันที่ 24 มิ.ย. ทั่วทั้งเอเชียช็อคกับข่าวที่ใบเฟิร์นเลิกกับ ไนน์ นภัทร เพราะแม่ไม่ยอมรับอดีตที่กบฏของนางเอก ท่ามกลางสถานการณ์ที่ต้องสูญเสียคนที่เธอรัก ผู้ชมส่งกำลังใจมากมาย และหวังว่าอีกไม่นานเธอจะผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากและกลับมาปรากฏบนจออีกครั้ง แต่เมื่อเขากลับมาแทนที่จะส่งมอบผลงานชิ้นเอกที่แท้จริง ใบเฟิร์นกลับทำให้แฟนๆ อับอาย โดยตัดสินใจผิดพลาดกับ นางฟ้าแห่งบาป  การสนับสนุนและความคาดหวังของผู้ชมพุ่งพรวด!

การคืนความรุ่งโรจน์ให้อัญมณีไทยไม่ใช่เรื่องง่าย แต่น่าเสียดาย เธอทำลายมันด้วยการตัดสินใจผิดกับโปรเจ็กต์นี้!

หากใครตำหนิคนเขียนบทและผู้กำกับที่ไม่สามารถสร้างหนังที่ดีและมีคุณภาพได้ คนดูจะตำหนิใบเฟิร์นสิบครั้ง เนื่องจากการดูความสำเร็จของซีรีส์เรื่องก่อนๆ จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะตระหนักว่า  ดาราหญิง The Leaf Rolls Away สามารถเลือกผลงานที่มีมนุษยธรรมและเป็นมาตรฐานได้อย่างสมบูรณ์เพื่อสร้างชื่อเสียง แทนที่จะยอมรับผลงานที่ซ้ำซากจำเจเหมือนกับในภาพยนตร์ อยู่ในขณะนี้

นางเอกจะสามารถ “ลบ” ภาพลักษณ์ของเธอในช่วงครึ่งหลังของหนังได้หรือไม่?

เมื่อ การรายงานข่าวของ  นางฟ้าบาป เริ่มแข็งแกร่งขึ้น ชื่อเสียงของใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ก็เสื่อมถอยลง นักแสดงหญิงสามารถใช้ประโยชน์จากความนิยมของเธอเพื่อช่วยให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มความน่าสนใจ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านี่จะเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์สำหรับเธอ โดยปกติแล้วผลงานที่ประสบความสำเร็จจะสร้างชื่อเสียงให้กับนักแสดง และในทางกลับกัน นักแสดงจะต้องอาศัยความสามารถของเขาในการยกระดับงาน แต่ในกรณีของ  นางฟ้าแห่งบาปใบเฟิร์น พิมพ์ชนก แพ้ในการร่วมงานครั้งนี้

ปัจจุบัน  นางฟ้าแห่งบาป  ผ่านไปได้เกินครึ่งทางแล้วที่ทองดียังมีสามีถึง 5 คน แต่ผู้ชมก็ค่อยๆ หมดความอดทนเนื่องจากมีการปรากฏรายละเอียดที่ซ้ำซากจำเจและจำนวนผู้ชมที่ตื้นเขิน ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก จะสามารถ “เปิดเผย” ภาพที่เหลือในการเดินทางครั้งต่อไปของเขาได้หรือไม่? แล้วประชาชนจะมีความอดทนและอดกลั้นพอที่จะ “ให้อภัย” ความผิดพลาดอย่างต่อเนื่องของพระเอกทองและนางเอกใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ได้หรือไม่?